วันนี้เราอย ากที่จะพาเพ่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการใช้ชีวิตคู่ กับบทความ เคยรักกัน มากเพียงใด แต่ศีลไม่เสมอ กันก็ต้องแยกกันไปอยู่ดี ไปดูกันว่าทำไมคนที่ศีลไม่เสมอ กันถึงได้เดินแยกทางกันไป
เราคงเคยได้ยินคำกล่าวจากผู้หลักผู้ใหญ่บ่อยๆ ว่า หากศีลไม่เสมอ กัน คงคบกันไม่ได้ ซึ่งนั่นเป็นประโยคที่ใช้ได้กับทั้งการคบเพื่อน หรือแม้กระทั่งการคบกันเป็นคู่ชีวิต หล า ยคนก็คงยังไม่เข้าใจอย่ างแท้จริงว่าประโยคนี้หมายถึงสิ่งใดได้บ้าง วันนี้เราจะมาพูดถึงนิย ามในประโยคสั้นๆ ของประโยคนี้กัน หากเป็นการทำให้ทุกคน มีความคิดที่แตกฉาน และเข้าใจมากขึ้นก็สามารถนำเอาไปปรับใช้ในชีวิตได้ ถ้าคุณอยู่กับคนใจกว้าง คุณจะมีการใช้ชีวิตทางสังคมที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น มีการใช้ชีวิตที่กว้างขึ้น หากคุณอยู่กับคน มีบุญ คุณจะมีจิตใจที่เมตต า มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อน มนุษย์มากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณอยู่กับคน มองโลกในแง่ดี ตัวคุณนั้นจะมีความสุขไปต ามแบบที่คุณต้องการ ในแบบที่มันจะเป็น หากคุณอยู่กับคุณกล้าหาญ ตัวคุณเองจะมีความแข็งแกร่งมากินขึ้นกว่าเดิม หากตัวคนนั้นคบกับคนที่ไม่เอาไหน วันๆ ก็ทำแต่เรื่องไม่ดี ก็จะพาทำให้ตัวคุณเป็นคนไม่เอาไหน ยิ่งเราสนิทกับคนประเภทไหน นั้นแปลว่าตัวเราก็ย่อมเป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน หากตัวเราพูดคุยกับคนแบบไหน เรามีความสบายใจ ไม่อึดอัดใจ ให้รู้ไว้เลยว่าตัวเรากำลังจะเป็นพวกเดียวกับเขาแ ม ลงวัน
มันจะไม่ชวนกันไปกินน้ำหวาน กินเกสรดอ กไม้หรอ กนะ แต่มันจะชวนไปกินของไม่ดี เช่น เดียวกันคุณก็ไม่เคยเห็นตัวผึ้งชวนกันไปกินของไม่ดีเช่นเดียวกัน เพราะพวกเดียวกัน มันจะชอบทำอะไรเหมือนๆ กัน หากเราอย ากเป็นคนแบบใด ก็ให้เลือ กคบคนแบบนั้น คุณอย ากเป็นแมงวันหรือเป็นผึ้ง ก็สุดแล้วแต่คุณเลือ กเองได้ คนเรานะหากมีศีลไม่เสมอ กัน มันคบกันไม่ได้ หรืออาจจะคบกันได้แต่ปัญหาอาจจะต ามมาเยอะ คบคนแบบไหน ก็เป็นคนเช่นนั้นแหละ ถ้าคุณอยู่กับ ‘นักปราชญ์’ คุณจะมีความรู้มากยิ่งขึ้น
ที่มา dhammasawatdee