Home ข้อคิด 9 เรื่องควรรู้ก่อนถ่มที่ดิน

9 เรื่องควรรู้ก่อนถ่มที่ดิน

10 second read
Comments Off on 9 เรื่องควรรู้ก่อนถ่มที่ดิน
1
2,933

วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการถ่มที่ดิน มานำเสนอ กับบทความ 9 เรื่องควรรู้ก่อนถ่มที่ดิน ไปดูกันว่าก่อนที่เราจะถ่มที่เราควรรู้เรื่องอะไรบ้าง เพื่อรักษษผลประโยชน์ของเราไว้

ก่อนที่จะมีการวางสิ่งปลูกสร้าง หรือทำประโยชน์ต่อที่ดินผืนนั้นๆ เจ้าของมักจะทำการถมที่ดินให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม หรือ ถมเพื่อให้ระดับดินเท่ากัน เวลาปลูกสร้างทำอะไรก็จะดูสวยงาม แต่การจะถมดินแต่ละครั้งไม่ใช่ว่าจะถมได้เลย ต้องมีการพิจารณาอยู่หล า ยขั้นตอน เพื่อความเหมาะสม และดำเนินการได้อย่ า งราบรื่น ไม่มีสะดุดกลางคัน

1 ถมดินช่วงเดือนไหนถึงจะดี

ความเชื่อโบร่ำโบราณที่ยึดถือปฏิบัติกัน มา จะไม่ให้ถมดินหรือสร้างบ้านในช่วงเดือน 5 – เดือน 8 ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทำไมจึงปฏิบัติต่อ กัน มาแบบนั้น แต่จากที่ลองวิเคราะห์ดูสิ่งที่พอจะเป็นไปได้คือ ในช่วงที่เขาห้ามนั้นเป็นช่วงฤดูฝน สภาพอากาศจึงไม่เหมาะที่จะทำการถมดินหรือสร้างบ้าน นอ กจากจะดำเนินการไม่สะดวกแล้ว ยังอาจส่ งผลทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะการถมดินในฤดูฝน รถตักดินจะไม่สามารถลงบ่อ ดินได้ รถบรรทุกก็เข้าถมดิน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการถมดิน มีร า ค าสูง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกว่าปกติอีกมาก แต่หากถมดินเสร็จก่อนฤดูฝน พอเข้าฤดูฝน ฝนที่ตกลงมานั้น ก็จะทำให้หน้าดินไม่เสมอ กัน บางส่วนจะยุบตัวลง สุดท้ายก็ต้องรอให้พ้นฤดูฝนไปก่อน และแน่ใจว่าจะไม่มีฝนตกลงมาแล้ว ก็ต้องเริ่มทำการถมปรับหน้าดินกันใหม่ หลังจากนั้นจึงค่อยเริ่มสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆกันอีกที ค่าใช้จ่ายจึงบานปล า ยกว่าที่ได้ตั้งไว้

2 ถมดินสูงแค่ไหนถึงจะดี

ต ามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ตำแหน่งที่ดีในการสร้างบ้าน คือ ต้องไม่ต่ำกว่าระดับถนน แต่ก็ไม่ควรสูงมากเกินไปนัก ให้อยู่ในระดับ 0.5-1 เมตร แล้วแต่ว่าสไตล์บ้านเป็นแบบไหน อีกอย่ างที่ต้องคำนึงถึงให้มากก็คือ ต้องไม่ถมดินสูงกว่าบ้านข้างๆ หรือที่อยู่ในระแวกเดียวกับบริเวณบ้าน เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง หากได้ระดับในการถมดินแล้ว ก็ให้ถมสูงขึ้นเผื่อไว้สักนิด เพราะดินจะมีการยุบตัวได้ในอนาคต ถึงแม้ผู้รับเหมาจะทำการบดหน้าดินไว้จนแน่นดีแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่ า นไปหน้าดินจะทรุดลงเสมอ เพราะฉะนั้นเราควรจะถมดินให้มีระดับสูงกว่าระดับที่ตั้งไว้ประมาณ 20 เซนติเมตรกำลังดี เพื่อเผื่อ การยุบตัวของดิน

3 จำเป็นแค่ไหนต้องถมดิน

การถมดินเพื่อ การก่อสร้างหรือเพื่อใช้ประโยชน์นั้น บางครั้งก็ไม่ได้จำเป็นทุกครั้งไป หากพื้นที่นั้นไม่ได้ต่ำกว่าระดับถนน หรือเป็นพื้นที่ลาดชัน มากในลักษณะภูเขา การถมดินก็อาจไม่จำเป็นกับพื้นที่เหล่านี้ แล้วพื้นที่ไหนที่ควรทำการถมดินล่ะ พื้นที่ที่ควรจะถมดินเป็นอย่ างมากคือ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อ การมีน้ำท่วมขัง โดยเจ้าของที่ดินต้องมีการสำรวจประวัติของพื้นที่นั้นๆ โดยหาข้อมูลประวัติที่ดิน หรือสอบถามกับคนระแวกใกล้เคียง ว่ามีน้ำท่วมบ้างหรือไม่ บ่อยแค่ไหน นานเท่าไหร่ สูงมากหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในการถมที่ดิน รวมถึงการสั่งดิน มาเพื่อให้เพียงพอ กับการถมดินด้วย แต่หากเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับถนน มาก หากต้องถมดินบางครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าร า ค าที่ดินเสียอีก ก็ให้เลือ กที่จะสร้างสิ่งปลูกสร้างให้ยกพื้นสูงขึ้น จะช่วยให้ต้นทุนลดลงไปได้

4 ซื้ อ ดินเป็นคันรถหรือเหมาจ่ายดี

เป็นคำถามที่มีคนถามอยู่มาก ต่างก็กลุ้มใจและคิดไม่ตกว่า จะเลือ กซื้ อ ดินแบบไหนดี แนะนำให้เป็นแบบเหมาจ่ายไปเลย เพราะสามารถจบงานได้ง่ายและค่าใช้จ่ายไม่บานปล า ย แต่หากเลือ กที่จะสั่งซื้ อ ดินเป็นคัน ก็ต้องควบคุมปริมาณต ามที่ซื้ อจริงให้ได้ เพราะในการตักดินจะหาปริมาณและมาตราฐานที่แน่นอนไม่ได้ ถ้าเปรียบเทียบดูแล้ว ในการซื้ อ ดินเป็นคันรถ ผู้รับเหมาอาจจะตักดินไม่เต็มคัน และตักต่อคันไม่เท่ากัน แต่หากเราซื้ อแบบเหมา ผู้รับเหมาก็จะไม่ค่อยซีเรียสเรื่องปริมาณ เขาจะตักมาจนเต็มคันรถ ซึ่งจะมากกว่าการตักต ามปกติ เพราะเขาจะประหยัดค่าน้ำมันในการขนแต่ละรอบ การที่ขนน้อยรอบมากที่สุดจะทำให้เขาสูญเสียกำไรที่พึงจะได้น้อยที่สุดนั่นเอง ดังนั้นการซื้ อ ดินเป็นคันรถ เหมาะกับงานเล็กๆที่ต้องการใช้ดินในปริมาณที่แน่นอน ถ้าต้องการถมดินในปริมาณที่มาก ให้ติดต่อขอเหมาไปเลย แจ้งกับผู้รับเหมาว่าต้องการที่จะถมดินให้สูงกว่าเดิมเท่าไหร่ แล้วผู้รับเหมาจะทำการวัด และเสนอร า ค าทำร า ค ามาให้ เราก็แค่พิจารณาซึ่งตรงนี้สามารถที่จะขอต่อร า ค ากับผู้รับเหมาได้เลย

5 อ ย่ าลืมนึกถึงเพื่อนบ้าน

การผูกมิตรกับเพื่อนบ้านไว้เป็นสิ่งที่ดีมาก ในการก่อส้รางแต่ละครั้งจะมีทั้งเสียงรบกวน ฝุ่น การใช้ถนนสัญจร ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างมลพิ ษ และกระทบกับความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยในระแวกนั้น ดังนั้นหากเรามีการถมดิน ก็ให้เราแจ้งให้เพื่อนบ้านและในระแวกใกล้เคียงไว้ก่อน เพื่อเป็นการขออภั ยไว้ล่วงหน้า แค่นี้เพื่อนบ้านก็จะยินดี และให้ความร่วมมือ อาจได้เพื่อนบ้านก่อนที่บ้านจะสร้างเสร็จเสียด้วยซ้ำ

6 ทำสัญญาก่อนว่าจ้างถมดิน

เมื่อมีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็ต้องรัดกุมให้มากขึ้น โดยก่อนที่จะตัดสินใจจ้างถมดิน ต้องมีสัญญาว่าจ้างเสียก่อน แต่หากทางผู้รับเหมาไม่มีให้ เราก็สามารถที่จะทำขึ้น มาเองได้เลย โดยสัญญาต้องระบุให้ครบถ้วนชัดเจนดังนี้ ประเภทดิน, จำนวนกี่คันหรือเหมากี่เมตร, ใช้ดินอะไร, มีผู้ควบคุมงานหรือไม่, ระยะเวลาดำเนินงาน, การชำระเงิน รวมถึงชื่อ นามสกุล และล า ยเซ็นของผู้จ้างและผู้ว่าจ้าง โดยเอกส ารนี้ต้องทำขึ้น มา 2 ชุด จากนั้นให้ลงล า ยเซ็นไว้ทั้ง 2 ฝ่าย และเก็บไว้กันคนละฉบับ หากมีเอกส ารอื่นๆสำคัญ ก็ให้ถ่ายสำเนาแนบไปกับเอกส ารด้วย ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง เช่น ผู้รับเหมาถมดินไม่ครบต ามจำนวนที่ได้ตกลงกันไว้ หนีงานโดยที่ได้รับเงินไปแล้ว หลักฐานที่ทำไว้เหล่านี้แหละ จะเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี แต่หากไม่มีก็จะฟ้องกันได้ย ากมาก หรือบางครั้งก็ไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้เลย ทำให้เราเสียเงินไปฟรีๆเสียอ ย่ างนั้น

7 ใช้ดินลูกรังหรือ ดินดำ

ดินที่ใช้ในการถมจะมีอยู่ 2 ชนิด นั่นก็คือ ดินลูกรัง กับดินดำ ซึ่ง ‘ดินลูกรัง’ นั้นเหมาะที่จะทำการถมดินเพื่อ การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง ดินชนิดนี้จะได้จากการขุดดินภูเขา แต่หากต้องการถมเพื่อทำสวนหรือปลูกต้นไม้ ควรใช้ ‘ดินดำ’ หรือ หน้าดิน ซึ่งจะเป็นดินที่ได้จากดินนา หรือ ดินเก่าต ามสถานที่ต่างๆ เช่น ขุดสระ ขุดบ่อที่ใช้ในการทำเกษตร ดินชนิดนี้จะมีความอุดมสมบูรณมากกว่าดินลูกรัง แต่ร า ค าก็สูงกว่าต ามไปด้วย แต่หากในพื้นที่ต้องการทำทั้งสิ่งปลูกสร้าง และอีกส่วนเป็นสวน ก็ให้แยกและกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน และเลือ กใช้ดินให้เหมาะสมต ามชนิดจะดีกว่า

8 ถมดินแล้วรอนานแค่ไหนถึงจะสร้างบ้านได้

คำถามนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหล า ยอย่ าง ซึ่งหาข้อสรุปและตอบได้ย ากมาก เพราะต้องคำนึงถึงสภาพพื้นดิน และโครงสร้างของบ้าน ถ้าหากว่าเราได้ทำการถมดินต ามระดับปกติคือ 0.5-1 เมตร และโครงสร้างเป็นการตอ กเสาเข็ม เพียงแค่รดน้ำบดดินให้แน่น และต้องไม่อยู่ในฤดูฝน ก็สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างได้เลย เพราะดินที่ถมไม่ได้รับน้ำหนักจากตัวสิ่งปลูกสร้าง

แต่หากใช้เป็นฐานแผ่ ซึ่งต้องวางไว้บนดินที่แข็ง และแน่น หลังการถมดินต้องทิ้งระยะเวลาไว้นานร่วมปี แต่หากจะให้แน่นอนที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น มาในภายหลัง ก็ควรปรึกษากับวิศวกรโยธา ให้เข้ามาสำรวจดูพื้นที่ว่าพร้อมที่จะก่อสร้างหรือยัง หรือใช้โครงสร้างที่เป็นเสาเข็มเลยจะดีกว่ามาก

9 แบ่งจ่ายเป็นงวดปลอ ดภั ยกว่า

ในการก่อสร้างทุกประเภท ควรแบ่งชำระเงินเป็นงวดๆ ไม่ควรที่จะชำระให้ทางผู้รับเหมาก่อนในคราวเดียว เพราะจะทำให้เกิดปัญหางานล่าช้า ทิ้งงาน ผลงานออ กมาไม่เท่ากับที่สัญญาไว้

แต่หากเราทำสัญญาในการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ผู้รับเหมาก็จะเร่งงานเพื่อที่จะขอรับเงินต ามที่สัญญาไว้เป็นงวดๆไป ก่อนจะชำระเงินก็ให้ตรวจดูหน้างานด้วยก็จะดีมาก ลองดูว่าเรียบร้อยเป็นที่น่าพอใจดีหรือเปล่า แล้วค่อยจ่ายเงินก็ยังไม่สาย

เพราะต ามนิสัยคนไ ท ยแล้วมักจะขี้เกรงใจ และเห็นใจคนง่าย ผู้รับเหมาจึงมักจะนำจุดนี้มาเพื่อเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะรับเงินก่อน เช่น ต้องจ่ายเงินให้ลูกน้องก่อน จ่ายนู่นจ่ายนี่ส ารพัดที่เขาจะยกเอามาให้เราเห็นใจ ดังนั้นเราต้องทำใจแข็งให้มากที่สุด และให้ยึดต ามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก

สิ่งที่ควรรู้ ในปัจจุบันภูเขาต ามธรรมช าติได้ห า ยไปเป็นจำนวน มาก เนื่องจากการตักดินข า ยเพื่อ การถมที่ดินนี่เอง ดังนั้นเราควรช่วยกันเพื่อไม่ให้ภูเขาห า ยมากไปกว่านี้ โดยการถมดินแต่พอ ดี เอาเฉพาะที่มีความจำเป็นเท่านั้น

หากเราต้องการถมดินเพื่อ การก่อสร้าง หรือทำพื้นที่เพื่อประโยชน์ เราต้องศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้มีปัญหาขึ้น มาภายหลัง อาจด้วยการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความชะล่าใจก็ดี ให้เรายึดต ามข้อมูลที่ได้กล่าวมาข้างต้นให้ครบทุกข้อ ก็จะทำให้การถมที่ดินดำเนินการณ์ได้อย่ างราบรื่น และเป็นความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายด้วย

ที่มา Sabidee,krustory

Load More Related Articles
Load More By yakkinn999
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

5 วิ ธีดูทุเทียน สุก พร้อมทานอร่อย

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้วิธีการสังเกตทุเรียนสุก กับบทความ 5 วิ ธีดูทุเทียน …